สวยสง่าด้วยชุกแซกผ้าไทย
การแต่งกายมีหลายรูปแบบ หลายสไตล์
ขึ้นอยู่กับความชอบ บุคลิกและลักษณะ แต่สำหรับสาว ๆ แล้วเชื่อได้ว่า “ชุดแซก”
เป็นชุดที่กำลังได้รับความนิยม
ด้วยเอกลักษณ์ที่แสดงออกอย่างชัดเจนของความเป็นผู้หญิง
ความอ่อนหวาน อ่อนโยน ความมีเสน่ห์และความสง่างาม ทำให้ชุดแซกครองใจสาว ๆ
ทุกคนอย่างง่ายดาย
ยิ่งในปัจจุบันไม่น่าเชื่อว่าสาว ๆ
หลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับ “ชุดแซกผ้าไทย” กันมากขึ้น แต่เพราะอะไร ทำไมสาว ๆ
ถึงให้ความสนใจสวมใส่ชุดแซกผ้าไทย ใครอยากรู้มาดูคำตอยกัน
เหตุใด “ชุดแซกผ้าไทย” จึงได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้หญิง
1.
ความสง่างาม
ด้วยเอกลักษณ์ของผ้าไทยที่หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่ามีความสวย
หรูหราและสง่างาม
ดังนั้นการสวมใส่ ชุดที่ตัดเย็บจากผ้าไทยจึงช่วยให้ผู้สวมใส่ดูสวยและสง่างามเป็นอย่างมาก
2.
เหมาะสมทุกโอกาส
เพราะความที่เป็นผ้าที่มีความงดงามอยู่ในตัวเอง
เมื่อนำมาตัดเย็บเป็น ชุดแซก แล้ว ผู้สวมใส่สามารถใส่ได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะใส่ไปทำงาน
ท่องเที่ยว หรืองานกลางคืน ก็มีความเหมาะสมทั้งหมด เพราะมีความเรียบร้อยแต่คงไว้ซึ่งความหรูหรา
และที่สำคัญยังเป็นการให้เกียรติกับสถานที่หรืองานต่าง ๆ ที่เราไปเข้าร่วมด้วย
3.
รูปแบบมีความหลากหลาย
เพราะรูปแบบในการนำมาตัดเย็บเป็น ชุดแซก มีความหลากหลายมากขึ้น
มีการดัดแปรงให้เข้ากับความนิยม และยุคสมัย จนกลายเป็นที่นิยมของสาว ๆ
ต่างจากแต่ก่อนที่ผ้าไทยมักมีแต่ผู้ที่มีอายุแล้วสวมใส่
4.
มีความเป็นสากล
เพราะชุดแซกมีความเป็นสากลอยู่แล้ว เมื่อนำผ้าไทยมาตัดเย็บและมาสวมใส่ก็ยิ่งได้รับความนิยมและยกระดับผ้าไทยให้มีความเป็นสากลด้วย
5.
สวมใส่สบาย
ปัจจุบันเพื่อให้มีความหลากหลายในการตัดเย็บและการสวมใส่
จึงมีการปรับปรุงการทอผ้าไทยให้เนื้อผ้าสวมใส่สบายมากขึ้น
เพราะเป็นความจริงที่ว่าผ้าไทยสมัยก่อนแม้จะสวยงามแต่ก็สวมใส่ลำบาก เพราะสวมใส่แล้วร้อน
คัน ผ้าไทยบางประเภทมีความแข็ง นำมาตัดเย็บแล้วทำให้สวมใส่ไม่สบาย
6.
ราคาเหมาะสม
นอกจากความสวยงาม หรูหราและมีระดับแล้ว
ชุดแซกผ้าไทยยังราคาไม่แพงเหมือนแต่ก่อน
มีการปรับปรุงการทอผ้าให้มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม สาว ๆ
จึงหันมาให้ความสนใจกับการสวมใส่ชุดแซกผ้าไทย
เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้ คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้สาว
ๆ ยุคใหม่อย่างพวกเราเริ่มหันมาให้ความสนใจและสวมใส่ชุดแซกผ้าไทยกันมากขึ้น
เพราะนอกจากจะสวยสง่า มีระดับแล้ว ยังได้ช่วยอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยอีกด้วย..
0 comments: